หลังจาก SC Asset ประกาศเปลี่ยนแปลงบทบาทองค์กรตัวเอง สู่การเป็น Living Solutions Provider พร้อมชูวัฒนธรรมองค์กรใหม่ภายใต้ #SKYDIVE ประกอบด้วย 4C ได้แก่ ‘Care, Courage, Collaboration และ Continuous Improvement’ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างพื้นที่ที่ให้พนักงานได้สร้างความเป็น ‘4C’ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพงานและความสุขของพนักงาน ไม่ว่าใครก็คงอยากอยู่สภาพแวดล้อมที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่ชั้น 14 ของอาคารชินวัตร 3 สำนักงานใหญ่ของ SC Asset มีพื้นที่ทำงานในบรรยากาศที่แตกต่างจาก ‘สถานที่ทำงานทั่วไป’ อย่าง CO.Lab ที่มีทั้งส่วนที่ให้ได้ใช้สมาธิ และส่วนนั่งคุยงานระดมสมอง ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้พนักงานจากหลายแผนกได้ทำงานกันที่นอกเหนือจากห้องประชุม
1. พักสายตาจากหน้าจอ แล้วผ่อนคลายไปกับวิวเมืองจากชั้น 14
จริงๆ แล้วการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด ไม่ใช่การจดจ่อกับหน้าจอเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำงานสลับกับการหาช่วงพักสายตาและสมองให้คลายความเมื่อยล้า เพราะถ้าหากทำงานจนเกินพอดีจนทำให้สมองล้า ประสิทธิภาพในการทำงานให้สำเร็จนั้นจะลดลงได้
ที่ Co.Lab พนักงานสามารถนั่งทำงาน และพักสายตาจากหน้าจอ แล้วหันไปชมวิวเมืองสุดลูกหูลูกตาจากชั้น 14 ให้สายตาได้ผ่อนคลายบ้าง หรือจะออกไปโซนเอาท์ดอร์เพื่อสัมผัสลมและธรรมชาติให้ได้กล้ามเนื้อได้ยืดเหยียดบ้างเป็นระยะ ถ้าเริ่มหิวก็สามารถเดินไปดื่มกาแฟที่โซนเครื่องดื่มที่ทาง Co.Lab จัดไว้ให้ได้ตามสบาย Co.Lab เป็นไอเดียที่ดีสำหรับพนักงานที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งทำงานที่แผนกแบบเดิมๆ พูดได้เลยว่ามาที่ Co.Lab ได้ทั้งงานที่มีประสิทธิภาพและสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน
2. สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ ‘ความเป็นกันเอง’
ด้วยพื้นของ Co.Lab ที่เปิดโล่งและมีที่นั่งหลากหลายโซน ให้พนักงานได้เลือกใช้ได้ตามความชอบและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ประกอบกับแสง สี และดนตรีสร้างบรรยากาศที่ถูกออกมาแบบมาอย่างลงตัว จากผลการวิจัยที่บอกว่า แสงสว่างมีส่วนช่วยในการพัฒนาอารมณ์และความคิดของมนุษย์ทุกคน ทำให้พื้นที่ Co.Lab ถูกออกแบบมาให้ได้รับแสงอย่างเต็มที่ พร้อมกับการออกแบบเสียงเพลงที่ทำให้เกิดบรรยากาศสบาย ผ่อนคลาย และเหมาะแก่การพูดคุยกัน
3. พื้นที่สำหรับคนทำงานจริงจัง
หากพนักงานหรือทีมไหนต้องการที่จะทำงาน ระดมความคิดในแบบจริงจังมากขึ้น Co.Lab ก็มีโซนที่เป็นโต๊ะขนาดใหญ่เรียกว่า Dedicated Desks พื้นที่ที่มีความเป็นทางการมากขึ้น และ Pod A และ Pod B ซึ่งมีลักษณะเป็นที่นั่งคุยงานแบบมีคอกกั้นรอบด้าน พร้อมมีจอสำหรับการนำเสนองานอยู่ด้านใน ซึ่งมีไว้รองรับการทำงานที่จริงจัง มีระบบการจองที่ชัดเจน สามารถจองล่วงหน้าผ่านแอพลิเคชั่นภายของบริษัทได้อีกด้วย
นอกจากทั้ง 2 โซนยังมีห้อง On The Phone ห้องเก็บเสียงที่สามารถคุยโทรศัพท์ ประชุมสาย หรืออัดเสียงทำงาน ทำคอนเทนต์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเสียงรบกวน และ ตู้ขนาดขนาดสำหรับ 1-4 คนที่สามารถเข้าไปนั่งทำงานแบบใช้สมาธิได้อย่างเต็มที่
4. พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมเพื่อคนกลุ่มใหญ่
ระหว่างทางขึ้นไปชั้น 2 ของ Co.Lab มีพื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เป็นที่นั่งเป็นขั้นขึ้นไป โดยพื้นที่ส่วนนี้ถูกใช้สำหรับเป็น Town Hall ที่เป็นพื้นที่รองรับการประชุม สัมมนาขนาดใหญ่ หรือเวิร์คช้อปของคนต่างแผนก โดยจุคนได้ถึง 120 คน อีกทั้งยังสามารถนั่งทำงานได้ ในวันที่ไม่มีประชุมหรือสัมมนา
5. โซนหนังสือเพิ่มความรู้และประสบการณ์ที่ดี
ห้องสมุดของ Co.Lab ไม่ได้เงียบกริบเหมือนห้องสมุดที่อื่นๆ แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถนั่งอ่านหนังสือแบบสบายๆ บนเก้าอี้บีนแบ็กด้วยความสงบและผ่อนคลาย และยังสามารถยืมหนังสือจากโซนนี้กลับไปอ่านที่บ้านเพื่อเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆ โดยมีหนังสือใหม่ๆ ที่ทีม Community Management คอยอัพเดตให้อยู่เสมอแบบไม่ตกเทรนด์แน่นอน
นอกจากนี้ยังมีอื่นๆ ใน Co.Lab ที่น่าสนใจ และรอให้คุณมาสัมผัสการทำงานในแบบที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นด้วยตัวคุณเอง